ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ องค์กรชั้นนำต่างเร่งปรับตัวและนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และพี่วาฬคิดว่าหนึ่งในตัวอย่างของบริษัทในกลุ่มพลังงานที่โดดเด่น คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านด้วยโครงการ AXIS : AI Transformation & Synergy ที่มุ่งเน้นการผสาน คน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าด้วยกัน ไม่ใช่เพียงการปรับตัวให้ทันยุค แต่คือการยกระดับทั้งองค์กรไปสู่การเป็น “พลังงานแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและ AI อย่างยั่งยืน”
วิสัยทัศน์ของ ปตท. สู่การเป็นผู้นำด้าน AI
ภายใน 5 ปีข้างหน้า ปตท. ตั้งเป้าที่จะก้าวสู่การเป็น ”Top-Quartile Energy Company Utilizing Advanced Technology to Ensure Supply Security and Value Creation” หรือบริษัทพลังงานระดับแนวหน้า ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเต็มศักยภาพ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและการสร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านการดำเนินงานของโครงการ AXIS ปตท. ตั้งเป้าสร้าง Digital Value Creation กว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ Business, Technology และ People
3 เสาหลักของโครงการ AXIS
1) Business – AI เพื่อสร้างมูลค่าในธุรกิจ
ปตท. นำ AI มาใช้งานจริงในทุกหน่วยงาน พร้อมระบบ Collaborative Governance ที่ช่วยให้การทำงานเชื่อมโยงกันทั้งองค์กร ตั้งแต่การจัดซื้อ การบริหารซัพพลายเชน ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
2) Technology – รากฐานดิจิทัลเพื่ออนาคต
ปตท. สร้าง Cloud-smart Infrastructure และจัดตั้ง AI Digital Factory เพื่อผลักดันนวัตกรรมใหม่ ๆ รองรับการเติบโตในระยะยาว
3) People – พัฒนาคนให้พร้อมรับ AI
โครงการ AI Academy, Hackathon และ Digital Strategy School ถูกจัดขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรกว่า 4,000 คน ให้กลายเป็น Digital & AI Talents ที่พร้อมขับเคลื่อนอนาคต
Roadmap การดำเนินงาน 3 ระยะ
ระยะที่ 1 วางรากฐานดิจิทัล ให้คนในองค์กรมั่นใจ พร้อมใช้ AI ในการทำงาน โดยการ
- จัดตั้ง Digital Transformation Office และ Digital Factory
- ใช้เครื่องมืออัจฉริยะ เช่น Generative AI เพื่อสร้างเนื้อหาที่สร้างสรรค์ และ Dynamic Planning เพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ
- สร้าง Tech Marketplace เพื่อเร่งนวัตกรรมให้เกิดใหม่อย่างรวดเร็ว
ระยะที่ 2 ขยายสู่ทั้งองค์กร (Enterprise-wide Adoption) เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานราบรื่น ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ผ่านโครงการ
- นำ Spend Analytics มาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ
- ใช้ Inventory Optimizer จัดการซัพพลายเชนและบริหารคลังสินค้าอย่างชาญฉลาด
- เดินหน้า Cloud Migration รองรับการทำงานดิจิทัลเต็มรูปแบบ
ระยะที่ 3 Strategic AI Use Cases เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับเวทีโลก ด้วยการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบสมบูรณ์
- ใช้ AI ใน LNG Portfolio Optimization เพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ
- สร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลก
- ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น Hybrid Cloud และ Quantum-ready High Performance Computing หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำงานเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ปัจจุบันที่เราใช้เป็นล้านเท่า
ตัวอย่างโครงการสำคัญที่เชื่อมโยงกับ AXIS
นอกจาก AXIS แล้ว ปตท. ยังมีหลายโครงการดิจิทัลที่เสริมสร้าง Ecosystem ให้แข็งแกร่ง เช่น
- Mission X: ปรับปรุงกระบวนการ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่ม เน้นต่อเนื่องและวัดผลได้จริง ตั้งเป้าหมาย PTT EBITDA Uplift 10,000 ล้านบาท/ปี ภายในปี 2027
- POWER: ปรับปรุงศูนย์ข้อมูลงานหลักบน Enterprise Resource Planning (ERP) ให้กระบวนการดีขึ้น เน้นการใช้งาน Cloud พร้อมต่อยอด AI ให้กับ AXIS
- HVCT: แพลตฟอร์มบริหารจัดการ Value Chain ของกลุ่ม ปตท. ตั้งแต่ Upstream ไปจนถึง Downstream ช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพต่อประเทศ และกลุ่ม ปตท.
- Enterprise Data Platform (EDP): แพลตฟอร์มรวบรวมและบริหารข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเตรียมพร้อม AI ระดับองค์กรสำหรับ AXIS
นอกจากนี้ก็ยังมีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น NGR AIoT Platform (แพลตฟอร์มบริหารรวมศูนย์สำหรับตรวจสอบสถานะโรงงาน), GSP (แพลตฟอร์มรวมศูนย์ AI & Digital Tools สำหรับ Operation โรงแยกก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ตัดสินใจแม่นยำ ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า) รวมถึงมีการใช้ AI (Machine Learning Operation) ลดงาน Coding ที่ซ้ำซ้อน เพิ่มคุณภาพในการพัฒนา Digital Solutions และแน่นอนว่าถ้าพัฒนาเครื่องมือล้ำ ๆ อย่างเดียวคงไม่พอ แต่ทักษะของ “คน” ที่ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เป็นส่วนที่ ปตท. เห็นความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น จึงมี Digital Strategy School (PLLI) ที่มุ่งพัฒนาคนในองค์กรให้เป็น Digital Citizens และ AI Experts เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ตัวอย่างการดำเนินงานเพิ่มเติมจากบริษัทในกลุ่ม ปตท.
- ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) : X.Brain – Enterprise AI Engine เชื่อม Workflow ทุกกลุ่มงานขององค์กรและ Scale Up การใช้ Gen-AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) : Digital Transformation Journey มากกว่า 120 Solutions สร้างมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท เช่น Predictive Maintenance (Heat‑Exchanger Fouling), AI Vision Quality Assurance และ Corporate Gen-AI (AskMeGC) เป็นต้น
- ไทยออยล์ (TOP) : AI Radiographic Testing สำหรับการตรวจสอบภาพเพื่อหาข้อบกพร่องรอยเชื่อมอัตโนมัติ และ Intelligent Knowledge Query ช่วยตอบงานวิศวกรรม/ปฏิบัติการ
- ไออาร์พีซี (IRPC) : i-Flare ตรวจจับ Flare/Smoke แบบเรียลไทม์ ช่วยยกระดับความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม, MIP (Microscope Image Processing) เพิ่มความเร็วงานในห้อง Lab และใช้ Hi-Chat (Enterprise AI Assistant) เพื่อเสริมการสื่อสารภายใน
- โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) : GENIE AI Chatbot ช่วยงาน HR, Procuro ช่วยงาน Procurement, เดินเครื่องโรงไฟฟ้า/โรงงานด้วยข้อมูลเรียลไทม์และ Predictive Maintenance, ใช้ Copilot Screen ผู้สมัครงาน, Nostra AI วิเคราะห์ความต้องการ โดยวาง AI Governance ทั้งระบบ
- ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) : Hyper-Personalized Marketing ผ่าน BluePlus+/ Next Best Offer (NBO) วิเคราะห์พฤติกรรม และร่วมมือกับ KTB, AIS เปิดตัว “ธนาคารคลิกซ์” Virtual Bank ภายในปี 2026
สุดท้ายนี้ พี่วาฬมองว่า การที่ ทุกบริษัทในกลุ่ม ปตท. ขับเคลื่อนโครงการ AI Transformation ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยยกระดับขีดความสามารถขององค์กรให้ก้าวทันยุคดิจิทัล แต่ยังส่งผลดีต่อ เศรษฐกิจและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย ทำให้ไทยสามารถก้าวสู่ ยุค Digital & AI Economy ได้อย่างมั่นคง และแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย ไม่แพ้ใครในเวทีโลกด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยนะครับ