

สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์วันที่ 8-12 ก.ย. 68 และแนวโน้มสัปดาห์ 15-19 ก.ย. 68
ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจาก OPEC+ เพิ่มการผลิตต่อเนื่อง

การประชุม OPEC and non-OPEC Ministerial ทางวิดีโอคอล สมาชิก 8 ประเทศ (ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน) มีมติเริ่มปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 68 ปริมาณ 1.37 แสนล้านบาร์เรลต่อเดือน เพื่อชดเชยในส่วนอาสาลดการผลิตโดยสมัครใจ (Voluntary Cut) ปริมาณ 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะทยอยเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเป็นรายเดือนจนถึงเดือน ก.ย. 69 ทั้งนี้ OPEC+ แถลงการณ์ว่าอาจจะชดเชยปริมาณการผลิตทั้งหมดหรือบางส่วนขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุด หลังศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ตัดสินว่า นาย Trump ใช้อำนาจเกินขอบเขตพระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act: IEEPA) ในการตั้งภาษีศุลกากรตอบโต้ ทั้งนี้ ภาษีดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 14 ต.ค. 68 จนกว่าศาลสูงสุดจะมีคำตัดสิน

รัสเซียโจมตีอาคารรัฐบาลของยูเครนในกรุง Kyiv เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย. 68 ด้วยโดรนกว่า 800 ลำ นับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้อาคารที่พักอาศัยหลายแห่งในเมืองหลวงเกิดเพลิงไหม้ ทั้งนี้ โดรนและขีปนาวุธของรัสเซียยังสร้างความเสียหายทั่วทั้งทางเหนือ ใต้ และตะวันออกของยูเครน รวมถึงเมือง Zaporizhzhia, Kryvyi Rih, Odesa และภูมิภาค Sumy และ Chernihiv