สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์วันที่ 28 เม.ย.-2 พ.ค. 68 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 5-9 พ.ค. 68ราคาน้ำมันดิบลดลงจากตลาดกังวลอุปทานน้ำมันอาจล้นตลาด
วันที่ 3 พ.ค. 68 สมาชิก 8 ประเทศ ในกลุ่ม OPEC+ ประชุมผ่านระบบออนไลน์ ประกาศเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในส่วนที่เคยอาสาลดการผลิตโดยสมัครใจ (Voluntary Cut) ในเดือน มิ.ย. 68 อยู่ที่ 411,000 บาร์เรลต่อวัน (เท่ากับในเดือน พ.ค. 68)
Barclays ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ในปี 2568 และ 2569 ลดลง 4 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ 2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลจากคาดการณ์ครั้งก่อน มาอยู่ที่เฉลี่ย 66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ 60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ จากกลุ่ม OPEC+ 8 ประเทศ ประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. – มิ.ย. 68 รวม 960,000 บาร์เรลต่อวัน (เม.ย. 68 อยู่ที่ 138,000 บาร์เรลต่อวัน/เดือน
และ พ.ค. – มิ.ย. 68 อยู่ที่ 411,000 บาร์เรลต่อวัน/เดือน) คิดเป็น 44% ของ Voluntary Cut (2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ประกอบกับ
เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวจากสงครามการค้า
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ขู่ว่าจะใช้มาตรการ Secondary Sanctionsต่อประเทศหรือบุคคลที่ซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากอิหร่าน หลังจากการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 4 ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน
ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ค. 68 ณ กรุงโรม ในอิตาลี ถูกเลื่อนออกไป ทั้งนี้ Secondary Sanctions เป็นมาตรการที่สหรัฐฯ
ใช้ลงโทษประเทศที่ทำการค้ากับประเทศที่สหรัฐฯ คว่ำบาตร โดยจะตัดสิทธิ์การเข้าถึงตลาดหรือระบบการเงินของสหรัฐฯ
วันที่ 4 พ.ค. 68 กองทัพอิสราเอลรายงานว่ากลุ่ม Houthi ในเยเมนใช้มิสไซล์โจมตีอิสราเอล โดยสามารถทะลุผ่านระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลเข้าไปในบริเวณสนามบิน Ben Gurion ในเมือง Tel Aviv เมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งเป็นสนามบินสำคัญ
ของอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย และต้องปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินขึ้นลงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ล่าสุด นายกรัฐมนตรี
อิสราเอล นาย Benjamin Netanyahu โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีดังกล่าว และอิหร่าน
จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกัน
กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในเดือน เม.ย. 68 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน177,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานฟ (Unemployment Rate) คงที่จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 4.2%
