⛽️ หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมราคาน้ำมันที่หน้าปั๊มถึงมีขึ้น-ลงเรื่อย ๆ ?
วันนี้พี่วาฬจะมาเฉลยให้เพื่อน ๆ รู้กัน! ว่าราคาน้ำมันที่เราจ่ายกันอยู่นี้มีค่าอะไรซ่อนอยู่บ้าง 👀
ส่วนประกอบของราคาน้ำมันนั้น มีอยู่ 3 ส่วนหลัก 📍
1️⃣ ต้นทุนเนื้อน้ำมัน (คิดเป็นประมาณ 60 – 70% ของราคาน้ำมัน)
คือราคาที่อ้างอิงตามราคาตลาดในภูมิภาค ซึ่งประเทศในภูมิภาคอาเซียนนั้นอ้างอิงราคาจากตลาดสิงคโปร์
แม้ไทยเราจะขุดน้ำมันเองได้ แต่ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมาใช้กว่า 80-85% เลย
2️⃣ ภาษีและกองทุนต่าง ๆ (คิดเป็นประมาณ 25-30% ของราคาน้ำมัน)
– ภาษีสรรพสามิต
– ภาษีเทศบาล เรียกเก็บเพื่อบำรุงท้องถิ่น คิดเป็น 10% ของภาษีสรรพสามิต
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7%)
– กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง : เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ เมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกแพงกองทุนก็จะดึงเงินออกมาช่วยหนุนไม่ให้ราคาน้ำมันในประเทศพุ่งสูงเกินไป
– กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน : เพื่อสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และส่งเสริมการประหยัดพลังงานในประเทศนั่นเอง
3️⃣ ค่าการตลาด (คิดเป็นประมาณ 5% ของราคาน้ำมัน)
ส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายของสถานีบริการน้ำมัน ตั้งแต่การจัดการคลัง การขนส่งน้ำมันมายังสถานีบริการ รวมถึงการให้บริการที่หน้าปั๊มด้วยนะ (ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริหารจัดการดูแลสถานีบริการ)
อาจจะดูซับซ้อนซักหน่อย แต่ถ้าเราเริ่มเข้าใจแล้วก็อาจจะจะทำให้เราวางแผนการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น เพื่อในอนาคตเราจะยังได้มีพลังงานใช้ต่อไปในวันข้างหน้าอย่างยั่งยืนด้วยน้า
หวังว่าโพสต์นี้จะทำให้เพื่อน ๆ เข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างราคาของน้ำมันกันได้ดีขึ้นนะคร้าบบ 💙
ที่มา : https://www.offo.or.th/th/node/542